16 April 2012

Hold vs Carry

คำว่า Hold และ Carry มีความหมายคล้ายกัน แต่ใช้กันคนละอย่าง

Hold แปลว่า จับ (อยู่กับที่ ไม่เคลื่อนไปด้วย) ยกตัวอย่างสถานการณ์ เช่น
  • เราขอให้เพื่อนให้ช่วยถือกระเป๋าให้แป๋บนึง เราพูดว่า Can you please hold my purse for a second? อันนี้จะเห็นภาพว่าให้เพื่อนถืออยู่นิ่ง ๆ
Carry แปลว่า ถือติดตัวไป (เคลื่อนที่)
  • ต่อเนื่องจากตัวอย่างเมื่อกี้ที่ให้เพื่อนถือกระเป๋า เพื่อนบ่นว่ากระเป๋าเธอหนักจัง เธอพกอะไรในกระเป๋าเนี้ย เพื่อนก็พูดว่า What do you carry in your purse? อันนี้เห็นภาพว่าเราเอาอะไรถือมาด้วยถึงหนักขนาดนี้
สรุปง่าย ๆ hold จะหมายถึงการจับอยู่กับที่ carry หมายถึง ถือหรือพก จะเห็นภาพว่ามีการเคลื่อนที่ไปด้วย ให้นึกถึงเวลาอุ้มเด็กอยู่กับที่ จะพูดว่า hold a baby แต่ถ้าอุ้มไปไหนมาไหนด้วย จะต้องพูดว่า carry a baby :)

13 April 2012

ปิดโทรศัพท์มือถือ พูดว่าอย่างไร

เปิดไฟ ปิดไฟ พูดว่าอย่างไร

สด ๆ ร้อน ๆ เมื่อวานพาฝรั่งไปขอวีซ่าที่ศูนย์ยื่นวีซ่าประเทศหนึ่ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้านหน้าบอกว่าให้ปิดโทรศัพท์มือถือก่อนเข้าไปข้างใน แต่เธอได้พูดว่า " Close your mobile phone Sir." พูดแบบนี้ไม่ถูกต้องนะคะ
สำหรับคำว่า เปิด หรือ ปิด อุปกรณ์หรือเครื่องมือใด ๆ เราจะใช้ภาษาอังกฤษว่า

Turn on (เปิด) หรือ Turn off  (ปิด)

เช่น ถ้าจะบอกให้เขาปิดโทรศัพท์มือถือ ก็ควรพูดว่า "Please turn off your mobile phone." ถ้าใช้ว่า "close your mobile phone" นั้นหมายถึง เอามือหรือหาอะไรมาปิดโทรศัทพ์เอาไว้

อีกตัวอย่างเช่น เคยถามเด็กนักเรียนว่า เปิดไฟ เราจะพูดว่าอย่างไร เด็กก็ตอบเลยว่า open the light อันนี้ก็ผิด เพราะ open นั้นหมายถึงแกะหลอดไฟมาดูเลยทีเดียว ให้เห็นชิ้นส่วนภายใน ซึ่งเราจะไม่ได้หมายถึงอย่างนั้นแน่ ที่ถูกต้อง พูดว่าอย่างไรคะ คราวนี้คงรู้แล้วนะคะ "turn on the light."

ย้ำอีกครั้ง!!!เวลาจะพูดว่าเปิดหรือปิดอะไร ต้องพูดว่า
turn on the TV หรือ turn off the TV
turn on the computer หรือ turn off the computer (shut down)
turn on the coffee machine หรือ turn off the coffee machine
turn on the engine หรือ turn off engine

ชื่อดอกไม้ เป็นภาษาอังกฤษ

จริง ๆ แล้วดอกไม้มีชื่อเรียกได้ 2 แบบคือ ชื่อทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะจำยากและยาว  และชื่อเรียกทั่วไป(ชื่อเล่น) เรามารู้จักชื่อดอกไม้ยอดนิยมเหล่านี้กันเถอะคะ สังเกตดูส่วนใหญ่ชื่อของดอกไม้ก็มาจากลักษณะของดอกไม้นั้นเอง เช่น ดอกเฟื้องฟ้า ดอกบาง ๆ คล้ายกระดาษ ฉะนั้นก็เลยมีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษว่า Paper flower หรือ อีกตัวอย่างคือ ดอกหางนกยูง จะเรียกว่า Peacock Flower



ชื่อเรียกดอกไม้บ้าน ๆ

Hibiscus = ชบา
Asian pigeonwings = อัญชัน
Orange Jessamine = แก้ว
Ylang-Ylang/ Perfume Tree = กระดังงา
Rose = กุหลาบ
Canna flower = พุทธรักษา
Impala Lily = ชวนชม
Purple Orchid Tree = ชงโค
Lotus = บัว
Sunflower = ทานตะวัน
Orchid = กล้วยไม้
White Champaka = จำปี
Organge Champaka = จำปา
Oleander หรือ Sweet Oleander = ยี่โถ
White chesewood = ลำดวน
Lignum Vitae = แก้วเจ้าจอม
Croton-โกสน
Marigold = ดอกดาวเรือง
Zania = บานชื่น
Peacock Flower = หางนกยูง
Cosmos = ดาวกระจาย
Bush Clock Vine = ช้องนาง
Torch Ginger = ดาหลา
Rubiaceae = เข็ม
Paper flower = เฟื้องฟ้า
Plumeria = ลีลาวดี
Flamingo Flower = หน้าวัว
Cork Tree = ปีบ
Night Blooming Jasmine = ราตรี
Crown Flower = รัก
Pink Cassia/Pink Shower = กัลปพฤกษ์
Globe amaranth = บานไม่รู้โรย
Gardenia = พุดซ้อน
Jasmine = มะลิ




11 April 2012

ตัว o ในคำว่า o'clock ย่อมาจากอะไร

เคยมีเด็กนักเรียนช่างสงสัยถามว่า "oในคำว่า o'clock ย่อมาจากอะไรครับ"

o'clock ย่อมาจาก "of the clock" (ฉะนั้น o ย่อมาจาก of ) จะใช้ตามด้วยเวลาที่ลงท้ายด้วย ".00" นาทีเป๊ะ เช่น 9:00 หรือ nine o'clock สมัยก่อนเมื่อบอกเวลา เขาจะพูด เช่น six of the clock จนกระทั่งต้นศตวรรษที่ 18 พูดย่อจนสั้นลง จึงเหลือแค่ o'clock

10 April 2012

Island ที่ถูกต้อง อ่านว่ายังไง - Silent S

Silent S

รู้หรือไม่ว่า คำภาษาอังกฤษก็ไม่ออกเสียง S ทุกตัวนะคะ หรือในภาษาอังกฤษเรียกคำแบบนี้ว่า "Silent S" เช่น Island
บางคนอาจอ่านว่า  ไอซ์ - แลนด์ ต่อไปนี้เรามาอ่านแบบที่ถูกต้องกันดีกว่า
  
 Silent S
คำอ่าน
aisle ไอล์    
island ไอ - ลึนด์
isle ไอล์
Arkansas อาร์ - คัน - ซอ
Corps คอร์
Illinois อิล - ลิ - นอย
precis เพร - ซี
viscount ไว - เคาท์


*สังเกตุว่าเราจะไม่ออกเสียง S หน้าพยัญชนะ L ให้จำคำยกเว้นเหล่านี้ไว้
พยายามฝึกออกเสียงให้ชินจะได้ไม่ผิด นอกจากพวก Silent S แล้ว ยังมีเสียงพยัญชนะอื่น ๆ ที่ไม่ออกเสียงอีก เช่น Silent b ซึ่งเราเจอบ่อย ๆ ในคำว่า comb เดี๋ยวจะพูดถึงเรื่องนี้ครั้งต่อไปนะคะ

09 April 2012

คำศัพท์ Hiso ตอน 3

prompt = quick (adj.) แปลว่า รวดเร็ว
ตัวอย่าง Your prompt reply will be greatly appreciated. (Your quick reply will be greatly appreciated.)

amend = revise (v.) แปลว่า แก้ไข
ตัวอย่าง The amended proposal has been approved. (The revised proposal has been approved.)

prior to = before (prep.) แปลว่า ก่อน
ตัวอย่าง Please turn off your electronic devices prior to takeoff. (Please turn off your electronice devices before takeoff.)

occur = take place (v.) แปลว่า เกิดขึ้น
ตัวอย่าง The meeting will occur next week. (The meeting will take place next week.)

clarify = explain (v.) แปลว่า อธิบาย
ตัวอย่าง My teacher has tried to clarify the answer. (My teacher has tried to explain the answer.)

08 April 2012

แปลเพลง Stronger (What Doesn't Kill You) - Kelly Clarkson

Stonger (What doesn't kill you) by Kelly Clarkson




You know the bed feels warmer
เธอรู้ไหม ... เตียงนั้นมันอุ่นขึ้น
Sleeping here alone
แม้ว่าฉันจะนอนเพียงลำพัง
You know I dream in colour
แล้วรู้ไหมว่า ... ฉันยังหลับฝันดีได้
And do the things I want

และได้ทำอะไรตามใจตัวเอง

You think you
got the best of me
เธอคงคิดว่า เธอเอาชนะฉันได้
Think you had the last laugh
คิดหล่ะสิว่า  เธอชนะฉันแล้วหล่ะสิ

Bet you think that everything good is gone
คิดหล่ะสิว่า ฉันคงเสียสิ่งดี ๆ ไป
Think you left me broken down
คิดหล่ะสิว่าเธอได้ทำให้หัวใจฉันแตกสลายไปแล้ว
Think that I'd come running back
คิดอีกหล่ะสิว่า ฉันจะกลับไปง้อเธฺอ

Baby you don't know me, cause you're dead wrong
ที่รัก... เธอไม่รู้จักคนอย่างฉัน เพราะเธอคิดผิดถนัด


What doesn't kill you makes you stronger
อุปสรรคสอนให้เธอแข็งแกร่งขึ้น
Stand a little taller
ยืดอกยอมรับสิ่งที่เผชิญอยู่
Doesn't mean I'm lonely when I'm alone
ไม่ได้หมายความว่าฉันเหงา ยามที่ไม่มีเธอ
What doesn't kill you makes a fighter
อุปสรรคจะสอนให้เธอเป็นนักสู้
Footsteps even lighter

เป็นแรงผลักดันให้ก้าวเดินไปข้างหน้า
Doesn't mean I'm over cause you're gone

ชีวิตฉันใช่จะพังเพราะขาดเธอ

What doesn't kill you makes you stronger

อุปสรรคสอนให้เธอแข็งแกร่งขึ้น
Just me, myself and I

มีแค่เพียงฉันเองเท่านั้น
What doesn't kill you makes a fighter
อุปสรรคจะสอนให้เธอเป็นนักสู้
Stand a little taller

ทำให้เธอเข้มแข็งขึ้น
Doesn't mean I'm lonely when I'm alone
ไม่ได้หมายความว่าฉันเหงา ยามที่ไม่มีเธอ


You heard that I was starting over with someone new
เธอคงได้ยินว่าฉันได้เริ่มต้นใหม่กับใครบางคน
They told you I was moving on over you
มีคนบอกว่าฉันตัดใจจากคุณได้แล้ว
You didn't think that I'd come back...
เธอไม่คงคิดว่า ฉันจะกลับมา....
I'd come back swinging
ฉันจะกลับมามีความสุขได้อีกครั้ง
You tried to break me, but you see

เธอพยายามจะทำลายฉัน แต่เธอเห็นไหมหล่ะ

What doesn't kill you makes you stronger
อุปสรรค
สอนให้เธอแข็งแกร่งขึ้น

 Just me, myself and I
มีแค่เพียงฉันเองเท่านั้น
Thanks to you I got a new thing started
ต้องขอบคุณเธอนะ ที่ทำให้ฉันได้เริ่มสิ่งต้นกับสิ่งใหม่ ๆ
Thanks to you I'm not the broken hearted

ขอบคุณ  ที่ทำให้ฉันไม่ได้เป็นคนอกหัก
Thanks to you I'm finally thinking bout me
ขอบคุณ ที่ทำให้ฉันได้กลับมารักตัวเอง
You know in the end the day you left was just my beginning
เธอรู้ไหม วันที่เธอทิ้งฉันไปมันเป็นวันเริ่มต้นชีวิตใหม่ของฉัน
In the end...
ในตอนจบ...

คำศัพท์ & สำนวนน่ารู้

dream in colour = ฝันดี หรือมีความสุข (ปกติคนเราจะเห็นภาพในฝันได้หลากหลายสี แต่เราแทบจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเราเห็นเป็นสี หรือ แทบจะบอกไม่ได้ว่าเป็นสีอะไร เพราะเราจำไม่ได้ แต่ถ้าเราเห็นภาพในฝันเป็นสีขาวดำนั้นหมายถึง เราอยู่ในภาวะเครียด กดดัน นั้นเอง
source: http://www.dreammoods.com/reference/faq.htm#blacknwhite)
got the best of me = มีช้ยชนะเหนือฉัน
had the last laugh = มีชัยชนะในภายหลัง เวลาที่มีคนมาดูถูก เช่น We had our last laugh when they found out that she cheated on her exam. (พวกเราได้หัวเราะสะใจ เมื่อมีคนจับได้ว่าเธอโกงข้อสอบ)  คล้ายกับสำนวนไทย "หัวเราะที่หลังดังกว่า" 555
dead wrong = ผิดจริง ๆ คำว่า dead ในที่นี้ไม่ได้แปลว่า ตาย แต่หมายถึง จริง ๆ (absolutely) ใช้เพื่อเน้นย้ำเฉย ๆ
What doesn't kill you makes you stronger = อุปสรรคและปัญหาต่าง ๆ จะหล่อหลอมให้เราเป็นคนแข็งแกร่งขึ้น เป็นสำนวนที่ได้ยินบ่อย ๆ เวลาจะให้กำลังใจใคร (อย่าแปลตรงตัวเด็ดขาดเพราะเป็นสำนวน)
Stand a little taller = ยืดอกอย่างภาคภูมิใจ สำหรับในเพลงนั้นหมายถึงให้ยืดอกเผชิญหน้ากับอุปสรรค
Footsteps even lighter = แรงผลักดันให้ก้าวเดินไปข้างหน้า
Me, myself and I = เพียงคนเดียว
moving on = ดำเนินต่อไป ในที่นี้หมายถึง ตัดใจจากแฟนเก่าได้แล้ว

เป็นอีกเพลงหนึ่งของ Kelly Clarkson ที่เนื้อหาดีมาก ๆ เหมาะที่ให้กำลังใจทุก ๆ คน ฝ่าฟันช่วงเวลาเลวร้ายของชีวิต หรือช่วงอกหัก เชื่อว่าทุกคนคงเจออย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต ในเนื้อร้องที่บอกว่า "what doesn't kill you makes you stronger" เธอกำลังบอกกับตัวเองว่าต้องเข้มแข็ง ถึงแม้ไม่มีเขา  

07 April 2012

Had better vs Should

Had better และ Should แปลว่า "ควร" ใช้เมื่อให้คำแนะนำ ทั้งคู่ แต่จริง ๆ แล้วจะใช้ในสถานการณ์ต่างกัน

1.  Had better + infinitive without to (Verb ช่อง 1) หรือใช้ตัวย่อ had = 'd  ถ้าสังเกตดู Had เป็นอดีตของ Have แต่เราใช้ในการให้คำแนะนำในปัจจุบันหรืออนาคตก็ได้ ซึ่งจะใช้ในกรณีที่เป็น "การเตือน" ถ้าไม่ทำตามคำแนะนำนั้น อาจจะเกิดผลเสียตามมา เช่น
  •               I'd better come to work on time or my boss will fire me.
  •               We'd better leave home now or else we might miss the flight.
  •               You'd better stop smoking or you will get lung cancer.
ในรูปปฏิเสธ Had better not + infinitive without to จะแปลว่า ไม่ควร
  •               I'd better not make a mistake.
*หลายคนบอกว่าไม่เคยได้ยิน had better มาก่อน แต่เชื่อว่าเคยได้ยินแน่นอน เพราะเวลาเราได้ยินฝรั่งพูด เราจะได้ยินแค่ better แต่จริง ๆ แล้วเขาออกเสียง d และ better
2. Should + infinitive without to ไม่มีตัวย่อ 'd จะใช้ should ไปเลย จะใช้ในการให้คำแนะนำทั่ว ๆ ไป เช่น
  •               I should invite her to my birthday party next week.
  •              She should get a job.
  •              We should eat less fat.
ในรูปปฏิเสธ should not + infinitive without to จะแปลว่า ไม่ควร (ซีเรียสน้อยกว่า)
  •               You should not go to bed late.
สรุปถ้าใช้ในสถานการณ์ที่ซีเรียสจะใช้ had better แต่ถ้าเป็นการให้คำแนะนำทั่วไป ใช้ should ให้จำประโยคนี้ไว้ You'd better not tell anyone. แปลว่าห้ามบอกใครเด็ดขาด (ถ้าบอกไปอาจมีเรื่องได้) กับอีกประโยค You should not tell anyone. แปลว่าไม่ควรบอกใครนะ